Tag: ทาลิป

ทำอย่างไรให้ลิปสวยและติดทน

By kct

ลิปสติกเป็นเครื่องสำอางชิ้นสำคัญที่ช่วยเติมสีสันให้กับริมฝีปาก แต่บางครั้งก็อาจหลุดลอกหรือเลอะเลือนได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ หรือต้องเผชิญกับอากาศร้อนชื้น เคล็ดลับต่อไปนี้จะช่วยให้ลิปสติกสวยและติดทนตลอดทั้งวัน 1. สครับปาก ก่อนทาลิปสติกทุกครั้ง ควรสครับปากเพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่าและขลุยที่หลุดลอกออกมา ช่วยให้ริมฝีปากเรียบเนียน ดูดซับสีลิปสติกได้ดีขึ้น และช่วยให้ลิปสติกติดทนนานขึ้น สามารถใช้ลิปสครับหรือแปรงขัดเบาๆ บริเวณริมฝีปาก สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง 2. ทาลิปบาล์ม การทาลิปบาล์มให้ริมฝีปากชุ่มชื้นก่อนทาลิปสติก จะช่วยให้ริมฝีปากไม่แห้งลอกและช่วยให้ลิปสติกติดทนนานขึ้น เลือกลิปบาล์มที่มีเนื้อบางเบา ไม่มันเยิ้มจนเกินไป และควรทาลิปบาล์มทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีก่อนทาลิปสติก 3. ทาลิปไพรเมอร์ ลิปไพรเมอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเตรียมริมฝีปากให้พร้อมสำหรับการทาลิปสติก ช่วยให้สีลิปสติกติดทนนานขึ้นและลดการเลอะเลือน เลือกลิปไพรเมอร์ที่มีเนื้อบางเบาไม่หนักจนเกินไป และทาให้ทั่วริมฝีปาก 4. เขียนขอบปาก การเขียนขอบปากจะช่วยให้ริมฝีปากดูคมชัดและช่วยให้ลิปสติกติดทนนานขึ้น เลือกลิปไลเนอร์ที่มีสีเดียวกับลิปสติกหรือสีอ่อนกว่าเล็กน้อย เขียนขอบปากให้เรียบร้อยก่อนทาลิปสติก 5. ทาลิปสติก ทาลิปสติกให้ทั่วริมฝีปาก โดยทาให้หนาหรือบางได้ตามต้องการ ในกรณีที่ต้องการให้ลิปสติกติดทนนานเป็นพิเศษ อาจทาลิปสติกทับอีกรอบ 6. เซ็ตลิปสติก ใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสงแตะเบาๆ ที่ริมฝีปาก จะช่วยเซ็ตลิปสติกให้ติดทนนานขึ้น 7. เติมลิปสติกระหว่างวัน หากต้องเติมลิปสติกระหว่างวัน ควรใช้กระดาษซับมันซับริมฝีปากก่อน แล้วจึงทาลิปสติกทับอีกครั้ง นอกจากเคล็ดลับข้างต้นแล้ว การเลือกลิปสติกเนื้อแมตต์หรือเนื้อครีมที่มีส่วนผสมของซิลิโคนหรือแว็กซ์…

การแต่งหน้าช่วยบ่งบอกบุคคลิกของคน

By kct

การแต่งหน้าเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ใช้ในการตกแต่งใบหน้าให้สวยงามและดูดียิ่งขึ้น โดยการเลือกเครื่องสำอางและวิธีการแต่งหน้าที่เหมาะสมกับใบหน้าและบุคลิกของผู้แต่งหน้า การแต่งหน้าจึงสามารถช่วยบ่งบอกบุคลิกของคนได้ ดังนี้ สีสันของเครื่องสำอาง สีสันของเครื่องสำอางสามารถสื่อถึงอารมณ์และความรู้สึกของผู้แต่งหน้าได้ เช่น การแต่งหน้าโทนสีสว่างสดใส บ่งบอกถึงความร่าเริง สดใส มีชีวิตชีวา ส่วนการแต่งหน้าโทนสีเข้ม บ่งบอกถึงความลึกลับ น่าค้นหา หรือความเข้มแข็ง เป็นต้น สไตล์การแต่งหน้า สไตล์การแต่งหน้าสามารถบ่งบอกถึงรสนิยมและความเป็นตัวตนของผู้แต่งหน้าได้ เช่น การแต่งหน้าแบบธรรมชาติ บ่งบอกถึงความเรียบง่าย เป็นตัวของตัวเอง ส่วนการแต่งหน้าแบบจัดเต็ม บ่งบอกถึงความมั่นใจ กล้าแสดงออก เป็นต้น องค์ประกอบอื่นๆ นอกจากสีสันและสไตล์การแต่งหน้าแล้ว องค์ประกอบอื่นๆ เช่น การแต่งตา แต่งปาก แต่งคิ้ว ก็สามารถบ่งบอกบุคลิกของคนได้ เช่น การแต่งตาแบบ cat eye บ่งบอกถึงความมั่นใจ กล้าแสดงออก ส่วนการแต่งปากสีแดง บ่งบอกถึงความเซ็กซี่ มั่นใจ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การแต่งหน้าเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่บ่งบอกบุคลิกของคนเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อบุคลิกของคน เช่น การแต่งกาย บุคลิกภาพ ท่าทาง การแสดงออก เป็นต้น ตัวอย่าง…

เทคนิคการแต่งหน้าให้สวย

By kct

เทคนิคการแต่งหน้าให้สวยนั้น สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสไตล์การแต่งหน้าและลักษณะใบหน้าของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม เทคนิคพื้นฐานที่ควรรู้ในการแต่งหน้าให้สวย มีดังนี้ การเตรียมผิว เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการแต่งหน้า เพราะจะช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานและดูเนียนสวย โดยควรบำรุงผิวให้สะอาด ชุ่มชื่น และปราศจากสิวหรือจุดด่างดำ จากนั้นจึงทาไพรเมอร์เพื่อช่วยล็อกเครื่องสำอางให้ติดทนนาน [Image of ขั้นตอนการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า] การลงงานผิว เป็นขั้นตอนที่จะช่วยให้ใบหน้าดูเรียบเนียน กระจ่างใส โดยควรเลือกรองพื้นหรือคุชชั่นให้เหมาะกับสภาพผิวและสีผิว จากนั้นจึงลงคอนซีลเลอร์เพื่อปกปิดจุดด่างดำหรือรอยสิว [Image of ขั้นตอนการลงงานผิว] การแต่งคิ้ว คิ้วเป็นกรอบหน้าที่สำคัญ จึงควรแต่งคิ้วให้สวยและเข้ากับรูปหน้า โดยควรใช้ดินสอเขียนคิ้วหรือมาสคาร่าคิ้วให้เส้นคิ้วคมชัดและเรียงตัวสวย [Image of ขั้นตอนการแต่งคิ้ว] การแต่งตา การแต่งตาเป็นขั้นตอนที่จะช่วยให้ดวงตาดูโดดเด่น โดยควรเลือกสีอายแชโดว์ให้เข้ากับสีผิวและสีตา จากนั้นจึงใช้อายไลเนอร์และมาสคาร่าช่วยทำให้ดวงตาดูโตและคมชัด [Image of ขั้นตอนการแต่งตา] การแต่งแก้ม การแต่งแก้มจะช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติและสดใส โดยควรเลือกบลัชออนให้เข้ากับสีผิว จากนั้นจึงใช้แปรงปัดบลัชออนให้แก้มดูมีสีสัน [Image of ขั้นตอนการแต่งแก้ม] การแต่งปาก การแต่งปากจะช่วยให้ใบหน้าดูโดดเด่นและเซ็กซี่ โดยควรเลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิวและสไตล์การแต่งหน้า จากนั้นจึงใช้ลิปกลอสช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นและวาววับ [Image of ขั้นตอนการแต่งปาก] นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคแต่งหน้าเพิ่มเติมอื่นๆ ที่ช่วยทำให้การแต่งหน้าดูสวยและสมบูรณ์แบบมากขึ้น…

ทาลิปแบบไม่ต้องปรับปรุงให้เปลี่ยนสีตลอดวัน

By kct

การทาลิปแบบไม่ต้องปรับปรุงให้เปลี่ยนสีตลอดวัน สามารถทำได้โดยการใช้ลิปสติกที่มีเนื้อสัมผัสแบบแมทหรือแบบซาติน ลิปสติกประเภทนี้จะมีเม็ดสีที่แน่นกว่าลิปสติกเนื้อครีมหรือเนื้อกลอส ทำให้สีติดทนนานกว่าและเลอะเลือนได้ยาก นอกจากนี้ ควรเลือกใช้ลิปสติกที่มีเฉดสีใกล้เคียงกับสีปากธรรมชาติหรือสีปากที่ต้องการ จะช่วยให้สีลิปสติกไม่เปลี่ยนสีมากนักเมื่อสัมผัสกับน้ำลายหรืออาหาร นอกจากการเลือกลิปสติกแล้ว การเตรียมริมฝีปากให้พร้อมก่อนทาลิปก็มีความสำคัญเช่นกัน ควรทาลิปบาล์มบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นก่อนทาลิปสติก จะช่วยให้ริมฝีปากไม่แห้งแตกและทำให้ลิปสติกติดทนนานขึ้น ขั้นตอนการทาลิปแบบไม่ต้องปรับปรุงให้เปลี่ยนสีตลอดวัน มีดังนี้ ทาลิปบาล์มบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น ทาลิปสติกลงบนริมฝีปาก โดยทาบางๆ ไล่จากในออกนอก เกลี่ยลิปสติกให้ทั่วริมฝีปาก ทาทับด้วยแป้งฝุ่นบางๆ เพื่อช่วยเซ็ตสีลิปสติก เทคนิคเพิ่มเติมในการทาลิปแบบไม่ต้องปรับปรุงให้เปลี่ยนสีตลอดวัน มีดังนี้ หลีกเลี่ยงการทาลิปสติกหลายชั้น เพราะจะทำให้ลิปสติกเลอะเลือนได้ง่าย หากต้องการเพิ่มความเงางามให้ริมฝีปาก สามารถใช้กลอสใสทับลิปสติกได้ แต่ควรทากลอสเพียงบางๆ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีรสเผ็ดหรือเปรี้ยว เพราะอาจทำให้สีลิปสติกเปลี่ยนได้ การทาลิปแบบไม่ต้องปรับปรุงให้เปลี่ยนสีตลอดวัน จะช่วยให้คุณมีริมฝีปากสวย โดดเด่น และไม่ต้องกังวลว่าสีลิปสติกจะเลอะเลือนหรือเปลี่ยนสีในระหว่างวัน

ลิปบำรุงความชุ่มชื่น

By kct

ลิปบำรุงความชุ่มชื่น (Lip balm) เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากชนิดหนึ่งที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์และสารบำรุงต่างๆ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ป้องกันไม่ให้ริมฝีปากแห้งแตกและลอกเป็นขุย ลิปบำรุงความชุ่มชื่นมีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น ลิปบาล์มแบบแท่ง ลิปบาล์มแบบหลอด ลิปบาล์มแบบเจล และลิปบาล์มแบบสครับ ส่วนผสมหลักของลิปบำรุงความชุ่มชื่น ได้แก่ แว็กซ์ (wax) ทำหน้าที่เคลือบริมฝีปากเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำระเหยออก น้ำมัน (oil) ทำหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก สารบำรุงอื่นๆ เช่น ว่านหางจระเข้ วิตามินอี วิตามินเอ เชียบัตเตอร์ เป็นต้น ลิปบำรุงความชุ่มชื่นมีประโยชน์ดังนี้ ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก ปกป้องริมฝีปากจากแสงแดด ลม และอากาศเย็น ช่วยให้ริมฝีปากเรียบเนียนขึ้น ป้องกันริมฝีปากคล้ำ วิธีใช้ลิปบำรุงความชุ่มชื่น ควรใช้ลิปบำรุงความชุ่มชื่นเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นหากจำเป็น สามารถใช้ลิปบำรุงความชุ่มชื่นได้ทั้งก่อนและหลังทาลิปสติก ข้อควรระวังในการใช้ลิปบำรุงความชุ่มชื่น หากมีอาการแพ้หรือระคายเคือง ควรหยุดใช้ทันที เก็บลิปบำรุงความชุ่มชื่นให้พ้นจากแสงแดดและความร้อน การเลือกซื้อลิปบำรุงความชุ่มชื่น ควรเลือกลิปบำรุงความชุ่มชื่นที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์และสารบำรุงต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก หลีกเลี่ยงลิปบำรุงความชุ่มชื่นที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่อาจระคายเคืองริมฝีปากได้ เช่น น้ำหอม พาราเบน และสีสังเคราะห์ นอกจากนี้…

ขั้นตอนการทาลิปแบบมืออาชีพ

By kct

ขั้นตอนการทาลิปแบบมืออาชีพ การทาลิปสติกให้สวยแบบมืออาชีพนั้น สามารถทำได้ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้ 1. เตรียมริมฝีปากให้พร้อม ก่อนทาลิปสติก ควรเตรียมริมฝีปากให้พร้อมด้วยการบำรุงริมฝีปากด้วยลิปบาล์มหรือลิปมัน เพื่อให้ริมฝีปากมีความชุ่มชื้นและเรียบเนียน จากนั้นใช้ทิชชู่ซับออกให้แห้งเล็กน้อย 2. ปรับสีปากให้สม่ำเสมอ หากริมฝีปากมีสีคล้ำหรือมีรอยดำรอยแดง ควรใช้คอนซีลเลอร์หรือเบสทาทับบริเวณริมฝีปากเพื่อปรับสีปากให้สม่ำเสมอ 3. เขียนขอบปากให้คมชัด ใช้ดินสอเขียนขอบปากสีเดียวกับลิปสติกหรือสีอ่อนกว่าลิปสติกเล็กน้อย เขียนขอบปากให้คมชัดตามรูปทรงที่ต้องการ 4. ทาลิปสติก ใช้ลิปสติกทาทับบริเวณริมฝีปากให้ทั่ว โดยสามารถใช้นิ้วหรือแปรงทาปากก็ได้ เทคนิคง่ายๆ ในการทาลิปสติกให้ดูเนียนสวย คือ การทาลิปสติกเป็นชั้นๆ เบาๆ ค่อยๆ เกลี่ยให้ทั่ว 5. เติมกลอส หากต้องการเพิ่มความฉ่ำวาวให้ริมฝีปาก สามารถเติมกลอสทับลิปสติกได้ โดยทากลอสบางๆ บริเวณกึ่งกลางริมฝีปาก เคล็ดลับเพิ่มเติม หากต้องการให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้น สามารถเขียนขอบปากให้เลยขอบปากจริงเล็กน้อย หากต้องการปกปิดรอยคล้ำบริเวณริมฝีปาก สามารถทาคอนซีลเลอร์หรือเบสให้ทั่วริมฝีปากก่อนทาลิปสติก หากต้องการทาลิปสติกให้ติดทนนานขึ้น สามารถทาแป้งฝุ่นบางๆ ทับลิปสติกได้ ตัวอย่างเทคนิคการทาลิปสติก นอกจากการทาลิปสติกแบบเรียบๆ แล้ว ยังสามารถทาลิปสติกให้ดูมีลูกเล่นได้หลายแบบ เช่น ทาลิปสติกแบบ Ombre เป็นการทาลิปสติกให้ไล่สีจากสีเข้มไปอ่อน โดยทาลิปสติกสีเข้มที่ขอบปากด้านใน และทาลิปสติกสีอ่อนที่ขอบปากด้านนอก ทาลิปสติกแบบ Gradient…